วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ตอน..ขึ้นรถไฟแอ่วลำปางหนาเจ้า


"ถ่านหินลือชา"
"รถม้าลือลั่น"
"เครื่องปั้นลือนาม"
"งามพระธาตุลือไกล"
"ฝึกช้างใช้ลือโลก"

สวัสดีค่ะ วันนี้มายเมจะพาไปเที่ยวจังหวัดทางภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ที่ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องปั้นดินเผา ที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปไก่ นั่นก็คือ"ถ้วยตราไก่" หรือชาวเหนือเรียกกันว่า "ถ้วยก๋าไก่" (ก๋า แปลว่า ตราสัญลักษณ์) และยังมีรถม้าที่อยู่คู่กับจังหวัดนี้มานาน ทุกคนคงคิดออกแล้วใช่ไหมคะว่าจังหวัดอะไร ..........นั่นก็คือ "จังหวัดลำปาง" นั่นเอง อีกทั้งยังมีชื่อเรียกอื่นๆของจังหวัดลำปาง เช่น เขลางค์นคร เวียงละกอน นครลำปาง เป็นต้น

บทความนี้เป็นบทความแรกของมายเมเองนะคะ ถ้าหากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ทุกคำติชมมายเมจะนำไปปรับปรุง พัฒนาบทความต่อๆไปค่ะ

มายเมขออนุญาติบุคคลที่ปรากฎอยู่ในภาพ สถานที่ต่างๆ สิ่งต่างๆ เพื่อถ่ายทอดและเก็บไว้เป็นบันทึกความทรงจำด้วยนะคะ

ภาพบางภาพอาจจะดูไม่ลงตัว เบลอบ้าง แตกบ้าง มายเมจะขอบอกก่อนว่า ทุกภาพมายเมใช้กล้องจากโทรศัพท์ส่วนตัวของมายเมถ่ายเองนะคะ และมีการปรับแต่งภาพเล็กน้อยตามความชอบของมายเมค่ะ หากมีอะไรผิดพลาด สามารถแนะนำได้นะคะ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


สถานีรถไฟเชียงใหม่
เรามาเริ่มต้นกันเลยดีกว่าค่ะ มายเมเริ่มออกเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่สู่จังหวัดลำปาง เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน มายเมไปช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ช่วงที่ดอกตีนเป็ดแบ่งปันความหอมมมมทั่วสารทิศเลยค่ะ (กลิ่นนี้มาทีไร เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าลมหนาวมาแล้ว) โดยการเดินทางจะขึ้นรถไฟค่ะ มายเมซื้อตั๋วเดินทางชั้น 3 ในราคา 23 บาท ออกเดินทาง 06:30 น.


ระหว่างทางจะมีลุงๆป้าๆมาขายอาหาร มีทั้งไส้อั่ว ไก่ทอด ไก่ต้มน้ำปลา ข้าวเหนียว เครื่องดื่มต่างๆ มีแม้กระทั่งมาม่าที่คนขายหิ้วกระติกน้ำร้อนขึ้นมาบริการถึงที่เลยค่ะ ส่วนไส้อั่วและไก่ในภาพชิ้นละ 20 บาท ส่วนข้าวเหนียวห่อละ 5 บาท อิ่มยาวตลอดทางเลยจ้า

อยากจะร้องไห้กับภาพนี้ ยกกล้องปุ๊บ ไม่ทันได้ปรับแสง ป้าก็รีบยกไปเลยจ้า T^T

เพื่อนร่วมทางของมายเมเองค่ะ

สถานีลำพูนละจ้าาาาาา

หามายเมเจอเปล่าน๊าาาา

เริ่มทริปกันด้วยกาดเก๊าจาว หรือเรียกอีกชื่อว่าตลาดรัตน ซึ่งตั้งตามชื่อหลวงเสรีเริงฤทธิ์ รัตนยนต์ ผู้ว่าราชการรถไฟ แต่ส่วนมากจะเรียกว่าเก๊าจาวมากกว่า เพราะในอดีตมีต้นขะจาวต้นใหญ่ในบริเวณนั้น ซึ่งคำว่าเก๊าเป็นภาษาเหนือที่แปลว่าต้นไม้ เช่น ต้นมะม่วง ภาษาเหนือคือเก๊าบ่าม่วง เป็นต้น ส่วนคำว่า จาว มาจากขะจาว เป็นชื่อพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่ง กาดเก๊าจาวเป็นตลาดที่อยู่มานานตั้งแต่ พ.ศ.2453 สมัยยุคแรกๆที่เริ่มสร้างทางรถไฟ บริเวณนั้นยังคงสภาพบ้านเรือนโบราณให้ได้ชมกันอีกด้วย ใครที่อยากลิ้มลองอาหารเหนือแท้ๆ ลองมาแวะชมแวะชิมได้นะคะ
การเดินทาง เดินออกมาหน้าสถานีรถไฟแล้วเลี้ยวซ้าย ไปตามถนนเลียบทางรถไฟไปเรื่อยๆก็ถึงค่ะ

รถสองแถว รถเหลือง รถคิว รถสี่ล้อ แล้วแต่จะเรียกค่ะ รอบเมืองคนละ 20 บาทเองจ้า

มื้อแรก ณ ลำปาง

ร้านข้าวซอยในบ้าน เป็นร้านเล็กๆข้างทางที่อยู่ริมแม่น้ำวัง ตั้งอยู่ระหว่างสะพานแขวนสีส้มสองที่ อยู่ฟากเดียวกับวัดเชียงราย ข้าวซอยที่มายเมสั่งคือข้าวซอยเนื้อ ธรรมดา 50 บาท เป็นเนื้อเอ็นแก้ว ที่นุ่มละมุนลิ้นมาก มายเมบังเอิญเดินมาเจอร้านนี้ ถึงแม้เป็นร้านเล็กๆ แต่รสชาติไม่เล็กนะครับ 555 อร่อย เข้มข้น ล้ำลำขนาดเจ้า

ถึงแล้วจ้าสะพานแขวนสีส้มหรือสะพานส้ม สะพานออเร้นจ์ มีอยู่ 2 ที่ ห่างกันไม่มาก เป็นสะพานที่รถไม่สามารถข้ามได้ มีสวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะเทศกาลลอยกระทง จะมีผู้คนมากมายมาชมการแสดงล่องสะเปา (ล่องสะเปา จาวละกอน) ซึ่งสะเปามีความหมายเดียวกับสำเภา ส่วนจาวละกอนหมายถึงชาวลำปาง

วัดเชียงราย อยู่ตำบลสวนดอก อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ใช่ค่ะ ครั้งแรกที่มายเมได้ยินชื่อนี้ เชียงราย? แต่อยู่ลำปาง สวนดอก? แต่อยู่ลำปาง (คิดว่าสวนดอกมีแค่ที่เชียงใหม่ 555555555) มายเมเลยไปหาที่มาที่ไปมาให้อ่านกัน
"วัดเชียงราย (CHIANGRAI TEMPLE )วัดเชียงราย คณะสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นเมื่อปี 2200 โดยเจ้าพระยามหาโยธานราธิบดีศรีพิไชยณรงค์ หรือพระยาเจ่ง ผู้เป็นต้นตระกูลคชเสนีฝ่ายเหนือได้ส่งพระยาชมภู บุตรชาย ร่วมกับญาติทางมารดา ซึ่งเป็นเจ้านายฝ่ายเหนือตระกูลขัติ เชียงราย ก่อสร้างหมู่บ้าน และวัดเชียงรายขึ้นเพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูลชาวเชียงราย และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปี 2457"
https://thai.tourismthailand.org/สถานที่ท่องเที่ยว/วัดเชียงราย--7093

**ภาพนี้เป็นภาพเก่าที่มายเมไปครั้งก่อน**

ที่พักที่มายเมพักเป็นสไตล์ Guest house ชื่อ TT&T Backpackers Guesthouse เป็นที่พักสุดคุ้ม การบริการที่เป็นกันเอง แถมยังมีน้องหมาน่ารักๆเป็นพนักงานต้อนรับอีกด้วย สถานที่ร่มรื่น ติดกับแม่น้ำ ตอนกลางคืนเงียบสงบ

"บ้านเสานัก" อยู่ไม่ไกลจากที่พัก บ้านเสานัก (เสานัก แปลว่า มีเสามากมาย) นักแต้ๆ มีถึง 116 ต้น ค่าบริการเข้าชมคนละ 50 บาท เก็บเป็นค่าบำรุงสถานที่ บ้านเสานักสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.2438 โดยคหบดีพ่อค้าชื่อ หม่องจันโอง ซึ่งเป็นต้นตระกูลจันทรวิโรจน์ เป็นบ้านไม้สักโบราณผสมผสานศิลปะแบบพม่า ถึงแม้จะเก็บค่าเข้าชม แต่ก็ยังมีบริการน้ำดื่มสมุนไพรเย็นชื่นใจ และขนมให้รับประทานอีกด้วย

น้ำสมุนไพรกับขนมข้าวแต๋น(แตน)

อีกสถานที่ที่คนนิยมเดินเที่ยวตอนเวลากลางคืน คือถนนคนเดินกาดกองต้า (กาด แปลว่า ตลาด, กอง แปลว่า ถนน, ต้า แปลว่า ท่าน้ำ) เป็นถนนคนเดินที่เลียบฝั่งแม่น้ำวัง มีบ้านเรือนสองฝั่งถนนและยังคงสภาพบ้านเรือนไทยร่วมสมัย ทรงคุณค่า มีเสน่ห์สวยงาม ถนนคนเดินนี้อยู่ติดกับสะพานรัษฎาภิเศกหรือสะพานขาว เป็นสะพานที่มีสีขาวข้ามแม่น้ำวัง โดยอดีตเป็นสะพานไม้ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในวาระที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จครองราชย์ครบ 25 ปี ในปีพ.ศ. 2437 อีกทั้งในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ได้ทาสีเพื่ออำพรางตา โดยอ้างว่าสะพานนี้ไม่่มีประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ จึงรอดจากการโจมตีทิ้งงระเบิดมาได้ จากนั้นต่อมาได้มีการปรับปรุงเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีให้เห็นถึงปัจจุบัน
**ภาพนี้เป็นภาพเก่าที่มายเมไปครั้งก่อน**

AT ONE กาดกองต้า ร้านนี้เป็นร้านที่มายเมแนะนำให้ไปลิ้มลอง (มายเมไม่ได้ค่าโฆษณานะ แต่ถูกใจจริงจึงอยากรีวิว)  มายเมคิดว่าชาเขียวที่นี่อร่อยมาก มากๆจริงๆ และยังมีพวกขนมหวานต่างๆอีกด้วย ร้านนี้มีระเบียงชั้นสองให้ขึ้นไปนั่งอีกด้วย ไปดูวิวถนนคนเดินตอนกลางคืน ราคาก็เอื้อมถึง ไม่แพงเกินไป เจ้าของร้านก็ใจดี
ที่มาของชื่อร้าน

เป็นอีกร้านหนึ่งที่มายเมไปนั่งรอเวลาเพื่อจะไปเดินเล่นถนนคนเดิน เป็นร้านกาแฟเล็กๆที่อยู่ในถนนคนเดินกาดกองต้า การบริการของเจ้าของร้านดีมาก สุภาพและเป็นมิตร เมนูในร้านมีทั้งของหวาน ของคาว ตั้งแต่กาแฟ น้ำหวาน เค้ก รวมไปถึงอาหารจานเดียวอีกด้วย

ร้าน 989 Cafe' Dessert & Drink เป็นคาเฟ่เล็กๆที่กาดกองต้า มีเมนูให้เลือกมากมาย ทั้งเครื่องดื่ม ขนมหวาน ขนมปังปิ้ง บิงซู รสชาติพอใช้ได้ มายเมคิดว่าอร่อยถูกปากมายเมนะ แต่เพื่อนมายเมบอกว่า แปลกๆ แบบนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความชอบของบุคคลด้วยเนอะ การบริการก็ดีเยี่ยม ถือว่าโอเคเลยล่ะ


ร้านขนมจีนชื่อดัง ร้านขนมจีนป้าบุญศรี เป็นร้านอาหารเหนือ มีทั้งน้ำเงี้ยว ข้าวซอย ข้าวกั้นจิ้น(ข้าวเงี้ยว) ขนมหวานต่างๆ ราคาไม่แพงเลย ร้านอยู่ข้างสะพานรัษฎาภิเศก ตรงข้ามกับร้าน AT ONE กาดกองต้า
ตรงนี้เป็นบริเวณข้างๆร้านที่ติดกับสะพานรัษฎาภิเศก เป็นทางลงลอดใต้สะพาน จะมีภาพวาดศิลปะบนกำแพง สามารถไปถ่ายรูปเล่นกันได้ค่ะ มายเมหารูปตัวเองไม่เจอ หายไปไหนไม่รู้ ยืมเพื่อนมาเป็นนางแบบก่อน(ขออนุญาติเน้อ 555)

ร้านนี้มายเมขอโทษจริงๆ มายเมไม่รู้จักชื่อร้าน ไม่รู้สถานที่ไป เพราะพี่ของเพื่อนมายเมพาไป เป็นร้านที่อยู่ริมแม่น้ำวัง ราคาถูกแสนถูก 20-25 บาท มีขนมจีนน้ำเงียว ขนมจีนน้ำยา น้ำยาป่า แล้วยังมีส้มตำอีกด้วย แซ่บมากขอบอก ราคาก็น่ารักสุดๆ
นี่วิวที่ร้าน(เผื่อมีคนรู้จัก)

ร้าน Good morning เป็นร้านกาแฟที่ตกแต่งสวย บรรยากาศร่มรื่น เหมาะแก่การมานั่งผ่อนคลาย มีการจัดสวนที่ร่มรื่นสบายตา ถึงแม้จะอากาศร้อนแค่ไหน ก็ยังมีโซนห้องที่ติดเครื่องปรับอากาศให้บริการอีกด้วย มายเมชอบเค้กร้านนี้มากตั้งแต่มาเที่ยวลำปาง มายเมคิดว่าร้านนี้เค้กคือที่สุดของมายเมเลยค่ะ นุ่มละมุนลิ้น เนื้อแน่นๆแต่ไม่แข็ง ราคาต่ำกว่า 50 บาท ร้านเปิดทุกวัน 08:00-17:00 น.

หลังจากเที่ยวเสร็จ กินอิ่ม ก็ได้เวลาเดินทางกลับกัน โดยการเดินทางจะใช้รถไฟจากลำปางสู่เชียงใหม่ ในราคา 50 บาท เป็นรถปรับอากาศเย็นสบาย เวลา 17:30 น. มาถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ประมาณ 19:30 น. และสิ่งแรกที่ต้อนรับกลับเชียงใหม่ก็คือ กลิ่นดอกตีนเป็ดจ้าาาา คือว่าก้าวขาลงรถไฟปุ๊บ ดอกตีนเป็ดก็โชยมาแตะจมูกปั๊บเลยค่ะ มายเมอยากจะบอกว่าที่ลำปางแทบไม่ค่อยได้กลิ่นเลย เชียงใหม่นี่ตลอดทั้งทางเลยค่ะ บางที่เรียงกันเกือบสิบกว่าต้น 5555555
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ มายเมหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจ และเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทยนะคะ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มีธรรมชาติที่สวยสะดุุดตา เป็นประเทศที่มีผู้คนใจดี เป็นมิตร ประเทศไทยเลยขึ้นชื่อว่าเป็นสยามเมืองยิ้มไงล่ะคะ